ประวัติ CS : GO เกม FPS เบอร์ 1 ของวัยรุ่น 90 สู่วัยรุ่น Gen Z

รอยต่อระหว่างยุคอนาล็อกกับดิจิตอลเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของยุค 90 จนกลายวลีสุดฮิตอย่าง “วัยรุ่น 90” ที่คุ้นหูกันดี และหนึ่งในกิจกรรมที่วัยรุ่นยุคนั้นให้ความนิยมกันก็คือการได้ไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ตามร้านอินเทอร์เน็ต แม้ว่าเดี๋ยวนี้หลายเกมที่เคยอยู่ในร้านเหล่านั้นจะได้หายไป แต่มีเกมหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจและส่งต่อความเป็น FPS เบอร์ 1 มาถึงเวทีอีสปอร์ตระดับโลก วันนี้เราจะพาไปรู้จัก ประวัติ CS : GO เกม FPS เบอร์ 1 ของวัยรุ่น 90 สู่วัยรุ่น Gen Z


ประวัติ CS : GO หรือ Counter Strike กับพนันอีสปอร์ต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพนันอีสปอร์ตได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่ากีฬาอีสปอร์ตกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเกมแนว FPS อย่าง Counter Strike : Global Offensive หรือ CS : GO ก็มีให้วางเดิมพันกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น CCT North America Series, Elisa Invitational Winter 2023, European Pro League Season 6 และอื่น ๆ อีก 10 กว่ารายการทั่วโลก

ประวัติ CS : GO

ความโดดเด่นของพนัน CS : GO คือรูแบบการวางเดิมพันง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Money Line ที่ทายว่าทีมไหนจะชนะ, Handicap ที่มีรูปแบบอัตราต่อรองเหมือนกับแทงบอล หรือจะแทงแบบ MAP ที่ทายว่าทีมไหนจะชนะ 2 ใน 3 ก็มีเช่นกัน นอกจากนี้รูปแบบเดิมพันพิเศษ เช่น ทายแต้มรวมคู่หรือคี่, ทายว่าทีมไหนจะฆ่าได้ 10 คนก่อน เป็นต้น


Counter Strike วิถีเกมหลักผู้ก้าวข้ามความเป็น MOD

ก่อนจะไปรู้จักกับ CS : GO กันแบบเต็ม ๆ หลายคนคงไม่รู้มาก่อนว่าแรกเริ่มเดิมทีซีรี่ย์เกมนี้เป็นเพียงแค่ตัวเสริม (MOD) ของ Half-Life เกมแนวเดินหน้าฆ่าเอเลี่ยนของค่ายเกม Sierra Studios and Valve Software ในปี 1999 จะว่าไปแล้วก็น่าตกใจเหมือนกันเพราะเป็นเวลานานกว่า 20 ปีเลยทีเดียว นับตั้งแต่เกมนี้ถูกส่งถึงมือเกมเมอร์ยุคนั้น

ประวัติ CS : GO

แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าอายุอันยาวนานของเกมซีรีย์นี้ก็คือการที่ MOD ตำรวจยิงโจรได้รับความนิยมอย่างมากจนทาง Valve ต้องรีบดันเกมตัวเต็มออกมาภายใต้ชื่อ Counter-Strike ขณะที่ Half-Life กลับกลายเป็นตำนานผู้นับไม่ถึงสามไปเสียอย่างนั้น

หากสนใจอยากลองเล่นเกมพนันอีสปอร์ต VALORANT น้องใหม่ FPS สู่เบอร์ต้นของวงการอีสปอร์ตภายในเวลาแค่ไม่กี่ปี และยังมีรายการแข่งขันให้ได้เล่นเดิมพันกันอีกทุกวันด้วย


จุดเด่นของ Counter Strike บันไดสู่เวที Esports

จุดเด่นที่ทำให้บรรดาเกมเมอร์ทั้งน้อยใหญ่ต่างหลงใหลใน Counter-Strike ก็ต้องยกให้ระบบเกมที่ผู้เล่นจะเลือกเป็นตำรวจหรือผู้ก่อการร้ายก็ได้โดยไม่มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางกายภาพ จะมีความแตกต่างก็ในเรื่องของอาวุธบ้างเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ต่อให้เหลือแค่มีดหากมีทักษะการเล่นที่ดีก็สามารถทำ Head Shot ได้เช่นกัน เพราะเกมนี้ในแต่ละแผนที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้หลากหลาย หากคุณเป็นผู้ก่อการร้ายก็ทำได้ตั้งแต่วางระเบิด ฆ่าตัวประกัน หรือสังหารฝ่ายตรงข้ามให้หมด หากเล่นเป็นตำรวจก็เลือกได้ว่าจะสังหารผู้ก่อการร้ายให้สิ้น หรือจะช่วยเหลือตัวประกันก่อน รวมถึงการเก็บกู้ระเบิดให้ทันเวลา นั่นทำให้ผู้เล่นต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันพอสมควรเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ

ประวัติ CS : GO

ด้วยความนิยมตรงนี้ทำให้ซีรีย์เกม Counter-Strike เดินหน้ามาถึงภาค Source ก่อนที่จะมีการนำมาขยายขอบเขตการเล่นภายใต้ชื่อโปรเจกต์ Counter-Strike : Global Offensive ในเดือนมีนาคม 2010 และเปิดให้เล่นจริงในเดือนสิงหาคม 2011 พร้อมกับเปิดให้เล่นฟรีพร้อมโหมด Battel Royale ในปีถัดมา ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ทาง Valve จัดการแข่งขัน Esports ทั้งในระดับ Minor และ Major แน่นอนว่ารายการใหญ่แบบนี้ก็มีสตรีมเมอร์ชื่อดังระดับโลกเข้าร่วมมากมาย หนึ่งในนั้นก็มี Shroud หรือ S1mple ที่สร้างชื่อจากเกมนี้ก่อนที่จะวางมือ


6 เทคนิค CS : GO คุณเองก็เป็นโปรเพลเยอร์ได้

เห็นกันแบบนี้ถึงจะไม่ได้ไปโลดแล่นบนเวที Esports แต่คุณเองก็สามารถเริ่มต้นสนุกไปกับ CS : GO ได้ง่าย ๆ แบบผู้เล่นมืออาชีพด้วย 6 เทคนิค ต่อไปนี้

1. ไม่ Re-Load พร่ำเพรื่อ

การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งที่ดีโดยเฉพาะการมีกระสุนเต็มแม็ก มันจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจว่าพร้อมสาดกระสุนใส่อีกฝ่ายก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าการยิงไปแค่ไม่กี่นัดแล้ว Re-Load ถึงจะใช้เวลาแค่ไม่กี่วิแต่ก็เป็นโอกาสทองให้อีกฝ่ายได้แต้มคิลง่าย ๆ ดังนั้นควรฝึกเปลี่ยนแม็กกาซีนเวลาที่กระสุนใกล้หมดให้คล่องจะดีกว่า อย่างน้อยเราจะได้ไม่เป็นตัวแจกแต้มประจำทีมจน Join กับใครก็โดนเขาเตะออกมา

ประวัติ CS : GO

2. CS : GO ไม่ใช่เกมแรมโบ้

บางคนอาจเคยชินกับบรรยากาศร้านเกมที่วิ่งไปโดดยิงไป แบบไม่กลัวตาย รีบโยนนิสัยแบบนี้ทิ้งไปเสีย เพราะนอกจากจะแจกแต้มแล้วยังเป็นตัวล่อเป้าเผยตำแหน่งเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย อาจพาซวยตายยกทีมได้ง่าย ๆ รู้หรือไม่ว่าในระดับมืออาชีพถึงแม้ CS : GO จะเดินเกมเร็ว แต่พวกเขาเล่นเป็นระบบ เช็กทุกมุม เรียกได้ว่ารวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด เลยเป็นอีกหนึ่งสเน่ห์ของเกมนี้

3. ใช้ระเบิดเมื่อจำเป็น

ระเบิดแต่ละประเภทจะใช้ประโยชน์แตกต่างกันไป ตั้งแต่สังหารบุคคล, พรางสายตา, ยับยั้งเป้าหมาย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเอามาใช้โดยไม่จำเป็น ใครที่เคยเล่นจะรู้กันดีว่าแค่ผิดมุมมันก็สามารถสะท้อนกลับมาระเบิดใส่เราได้ หรือบางทีตัวเองดันไปอยู่ในรัศมีระเบิดกลายเป็นแจกแต้มตายเข้าไปอีก หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ต้องมั่นใจว่าอีกฝ่ายอยู่มุมอับและเราก็พ้นรัศมีระเบิดด้วย แบบนี้ถึงจะดูเป็นมืออาชีพหน่อย

ประวัติ CS : GO

4. ไม่สู้แบบหมาจนตรอก

หลายคนอาจเคยชินกับนิสัยรีบจบเกมให้ไวเพื่อนกำลังรอ แต่เราจะไม่ทำแบบนี้กันใน CS : GO ต่อให้เหลือเราแค่คนเดียวในทีมก็ต้องพยายามหาโอกาสให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นมุมอับ มุมสูง Line off side ใช้ให้เป็นประโยชน์ ฆ่าเสร็จแย่งอาวุธแล้วย้ายจุดเลย

5. ฝึกใช้อาวุธรองให้คล่อง

ต่อให้ถนัดอาวุธหลักอย่างพวก Shotguns, Rifles หรืออาวุธหนักอย่างพวก Heavy Gunner แต่ในบางสถานการณ์ที่ต้องเจอศัตรูระยะประชิดหรือกระสุนหมด อาวุธรองอย่างปืนพกจะช่วยสร้างความได้กว่าในเรื่องอัตราการยิง โดนเน้น ๆ ไม่กี่นัดก็ตาย จะเห็นได้ว่าโปรเพลเยอร์บางคนใช้ปืนพกเป็นอาวุธหลักเลยก็มี

ประวัติ CS : GO

6. นั่งหรือหมอบยิง = แม่น

ในเกม FPS สมัยใหม่มีการเพิ่มความสมจริงเข้าไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการขัดลำกล้องไปจนถึงแรงถีบหรือ Recoil ทำให้การยืนยิงหรือเคลื่อนที่ยิงให้เข้าเป้าทำได้ลำบากขึ้น แต่เทคนิคหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือการหมอบหรือนั่งยิงจะทำให้นิ่งกว่า มีโอกาสเข้าเป้ามากกว่า ซึ่งในการยิงปืนจริง ๆ เราก็ใช้หลักการนี้เหมือนกัน


เคล็ดลับการเล่นเกม CS : GO

ประวัติ CS : GO

นอกจากเทคนิคการเล่นเกมแล้ว เรายังมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณเล่น CS : GO และเกม FPS อื่น ๆ ได้ดีขึ้นมาฝากกัน เพียงแค่

  1. ปรับ DPI และ Sensitivity ของเมาส์ให้เหมาะสมกับหน้าจอ ยิ่งเล่นจอใหญ่ยิงควรใช้ DPI สูง ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลากเมาส์ยาว ๆ ส่วนเรื่อง Sensitive ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของเราได้เลย
  2. เมาส์และแผ่นรองต้องถนัดมือ เพราะนี่คืออาวุธหลักที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับเรา
  3. หาหูฟังดี ๆ อาจจะไม่ต้องแพงก็ได้ ขอแค่แยกตำแหน่งเสียงได้ก็พอ สิ่งนี้จะช่วยให้เรารู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น
  4. จดจำแผนที่ให้ขึ้นใจทุกซอกทุกมุม ไม่เพียงแค่เราจะใช้ประโยชน์ในการรุกรับเท่านั้น แต่เรายังสามารถคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะย้ายตำแหน่งไปที่จุดไหนอีกด้วย
  5. ฝึกยิงบ่อย ๆ เพื่อให้รู้ว่าปืนประเภทไหนต้องยิงอย่างไร วิธีนี้จะช่วยให้เราได้อาวุธคู่ใจง่ายยิ่งขึ้น

อ้างอิง

Similar Posts