ประวัติ Dota2 เปิดตำนานพี่ใหญ่แห่ง MOBA สู่เวที ESports

พนันอีสปอร์ตเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักเดิมพันอย่างมากในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยรูปแบบเกมที่หลากหลายและไม่จำเป็นต้องลงไปแข่งก็สามารถทำเงินได้จากการวางเดิมพันในทีมอีสปอร์ตทั่วโลก อีกทั้งเกมที่ใช้ในการแข่งขันก็เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะเกมแนว MOBA ที่ว่ากันว่ามีรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลาย สามารถกระจายความเสี่ยงได้เต็มที่ โดย MOBA หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า Multiplayer Online Battle Arena เป็นประเภทของเกมที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการอีสปอร์ต จะเห็นได้ว่าเกมแนว MOBA ผุดขึ้นมามากมายตลอดเวลา แต่มันจะมีอยู่หนึ่งเกมที่ต่อให้คุณไม่ใช่เกมเมอร์ตัวยงก็คงต้องเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง และนี่คือ ประวัติ Dota2 ตำนานที่ยังมีลมหายใจ พี่ใหญ่แห่ง MOBA


ตัวอย่างประเภทการวางเดิมพันใน Dota2

ปกติแล้วการแข่งขัน Dota2 จะแบ่งออกเป็น 3 รอบ ในแต่ละรอบเราสามารถวางเดิมพันได้ดังนี้

  • ทายว่าทีมไหนจะชนะ
  • ทายว่าทีมไหนจะฆ่าได้ครบจำนวนก่อน มีตั้งแต่ 1, 5, 10, 15 และ 20 ศพแรก
  • ทายว่าทีมไหนจะตีโรชาน (บอส) ตัวแรกได้ก่อน
  • ทายว่าทีมไหนจะได้ Melee Barrack ก่อน
  • ทายว่าทีมไหนจะฆ่าได้มากที่สุด
  • ทายแต้มรวมคี่หรือคู่ มีตั้งแต่จำนวนการฆ่า, จำนวนที่ Radian ฆ่า, Dire ฆ่า, Radian Assists, Dire Assists, Tower ที่ได้รับ

นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการวางเดิมพันอีกมากมาย เช่น ทายทีมที่ชนะและฆ่าได้ศพแรกและฆ่าได้ 10, ชนะแบบ 2 ใน 3 เป็นต้น ซึ่งเงื่อนไขก็จะมีความซับซ้อน ท้าทายมากยิ่งขึ้น รวมแล้วมีมากกว่า 80 รูปแบบให้วางเดิมพันตลอดทั้งเกมเลยทีเดียว

แนวโน้มที่เกม E-sport จะได้รับความนิยมสูงขึ้นนั้นมีมากขึ้นทุกวัน บทบาทของ e-sports ในโลกกับกีฬา พร้อมเปรียบเทียบกับกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลกับกีฬาแบบดั้งเดิมในแง่ของจำนวนผู้ที่เข้าชมและความนิยมที่กว่าจะเป็น E-sport ทุกวันนี้

ประวัติ Dota2


ประวัติ Dota2 กว่าจะเป็นยอดนิยม

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2003 ท่ามกลางกระแสนิยมของ Warcraft III : Reign of Chaos กับภาคเสริมอย่าง The Frozen Throne เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเกมแนววางแผนรบ (RTS) แน่นอนว่าตอนนั้นเกมแนว MOBA ยังไม่ถือกำเนิดมาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็เริ่มตั้งเค้ามาจากการเป็นส่วนเสริม (MOD) ของเกมนี้

โดยทางผู้พัฒนาเองก็ได้มีการจับเอาตัว Hero ของทั้ง 3 เผ่า ในเกม Warcraft III มาเป็นตัวเล่นหลักในแมพ ระบบการเล่นจะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝั่งละ 5 คน ซึ่ง MOD นี้มีชื่อว่า Defense of the Ancients หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ DatA นั่นเอง สุดท้ายกลายเป็นว่า MOD นี้ได้รับความนิยมยิ่งกว่าตัวเกมหลักจนมีรายการแข่งขันเป็นของตัวเอง

ประวัติ Dota2

เมื่อเป็นเช่นนี้ทาง Valve ก็ตัดสินใจที่จะแยก DotA ออกมาจาก Warcraft III และคลอดออกมาในชื่อ Dota2 ในปี 2009 โดยมี Icefrog เป็นผู้กุมบังเหียนพัฒนาเกมทั้งสองเรื่อยมาจนถึงปี 2011 ก็ได้มีการเปิดตัวเกมนี้ให้กับเหล่า DotA Proplayer ร่วมทดสอบ ก่อนเปิดให้เล่นจริงบน Stream ในปี 2013

ช่วงปี 2015 Valve ได้ทำการยกเครื่องใหม่ให้กับ Dota2 ไม่ว่าจะเป็น User Interface, Graphic และระบบต่าง ๆ เพื่อหวังมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เล่น แต่กลายเป็นว่าเจอปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ ทำให้จำนวนผู้เล่นลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทีมงานจะมีการอัปแพตช์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จน Dota2 เป็นที่ยอมรับอีกครั้งและกลายเป็นหนึ่งในผู้นำบนเวที Esports ระดับโลก


Dota2 เล่นยังไง

สิ่งที่ทำให้ Dota2 ถูกขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่ง MOBA” คือระบบการเล่นที่มีการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเป็น Radiant กับ Dire ฝ่ายละ 5 คน ด้วยจำนวนผู้เล่นที่ไม่มากเกินไปทำให้ตัวเกมจบได้เร็ว รูปแบบการเล่นไม่มีอะไรมาก เพียงแค่สังหารศัตรูให้ได้แล้วเอาเงินไปซื้อไอเทมมาพัฒนาตัวละครให้แข็งแกร่ง เพื่อกลับไปสังหารศัตรูอีกครั้ง แล้วก็กลับมาอัพเกรดตัวอีกครั้ง ทำแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ ฝ่ายไหนทำลายป้อมและบ้านของอีกฝ่ายได้ก่อนก็จะชนะ

ประวัติ Dota2

ความพิเศษของ Dota2 ที่ทำให้เกมนี้ไม่เหมือนใครก็คือระบบที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถสังหารฝ่ายเดียวกันรวมถึงทำลายป้อมตัวเองเพื่อให้อีกฝ่ายได้ค่าประสบการณ์ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบร้านค้า ความสามารถในการป้องกันทั่วทั้งแผนที่ รวมถึงระบบการเงินที่ช่วยให้ผู้เล่นซื้อเกิดใหม่ได้เช่นเดียวกัน


Dota2 บนเวที ESports

ด้วยความโด่งดังของ Dota2 ได้ก่อให้เกิดบรรดาจริงจังเกมมิ่งขึ้นมามากเกินกว่าจะเป็นเกมที่เล่นกันขำ ๆ อีกต่อไป กระทั่งในปี 2011 The International รายการแข่งขัน Esports ที่ใหญ่ที่สุดก็ได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเงินรางวัลมูลค่ากว่า 1,600,000 ดอลลาร์หรือราว ๆ 50 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนในปี 2018 เงินรางวัลขยับสูงถึง 25,532,177 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 798 ล้านบาท โดยทีมจะเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้จะต้องเก็บคะแนนผ่านการแข่งขัน Dota Pro Circiut ซึ่งจะมีทั้งแบบ Major และ Minor ปะปนกันไป และในปี 2023 มีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 89 ทีมจากทั่วโลก

ประวัติ Dota2

สำหรับความนิยม Dota2 ในประเทศไทยยังไม่มากนัก ทำให้คอมมูนิตี้ค่อนข้างแคบบวกกับผู้เล่นต้องใช้เทคนิคและทักษะการเล่นระดับสูง ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปเล่นพวก RoV ที่มีความง่ายกว่า ถึงอย่างนั้นก็มีทีม Esports ของไทยไปโลดแล่นบนเวทีระดับโลกเช่นกัน นั่นก็คือ UD VESSUWAN ก็ติดตามผลงานกันได้ผ่านทาง ESPOSTS MATRIX ศูนย์รวมข้อมูล ESport ชั้นนำกันได้เลย

ประวัติ Dota2


รูปแบบทัวร์นาเมนต์ของ Dota2

ในการแข่งขัน Esports ของ Dota2 จะอยู่ในรูปแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

แบ่งตามผู้จัด

รูปแบบนี้จะเป็น Major Tournament ที่จัดขึ้นโดย Valve ซึ่งงานใหญ่ที่สุดคือ The International (TI) ที่ชิงแชมป์โลก เงินรางวัลส่วนหนึ่งมาจากการซื้อไอเทมในเกมจากผู้เล่นทั่วโลก ทำให้รายการนี้มีเงินรางวัลสูงและผู้เล่นระดับโปรเพลย์เยอร์ต่างให้ความสนใจที่จะเข้ามาเล่นบนเวทีนี้ให้ได้ ส่วนรายการอื่นก็มีเช่นกัน ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็มี ESL One, DreamLeague, SL i-League StarSeries, Dota Asia Championship, The Summit

ประวัติ Dota2

แบ่งตามลักษณะการแข่งขัน

การแข่งทัวร์นาเมนต์จะมีการแข่งขันอยู่ 2 ลักษณะด้วยกันคือ

  • Online เป็นทัวร์นาเมนต์ขนาดเล็ก แข่งแบบออนไลน์เท่านั้น โดยผู้เล่นจะไม่ได้เผชิญหน้ากัน มักจะเป็นการแข่งขันในระดับภูมิภาคเพื่อใช้คัดเลือกตัวแทนเพื่อเข้ารอบต่อ ๆ ไป ก่อนจะขึ้นเวทีใหญ่ใน TI
  • Offline หรือ LAN Event พบได้ในทัวร์นาเมนต์ขนาดใหญ่ โดยผู้จัดจะเชิญผู้เล่นจากทั่วโลกมาแข่งขันในสถานที่เดียวกัน มีการถ่ายทอดสดให้กับผู้ชมในงานและผ่านช่องทางออนไลน์ บรรยากาศบอกได้เลยว่าคึกคักไม่แพ้การแข่งขันกีฬาประเภทอื่นแน่นอน

Dota Pro Circuit (DPC) หนทางสู่ TI

ประวัติ Dota2

อย่างที่ได้เกริ่นกันไปแล้วว่ากว่าจะไปสู่จุดสูงสุดของโลก Dota2 อย่างเวที The International ได้ แต่ละทีมต้องฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อสะสมแต้มบุญกับ Dota Pro Circuit ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สนับสนุนโดย Valve ในการมอบเงินรางวัลให้กับทีมที่เข้าแข่งขัน และทีมที่เก็บสะสมคะแนนได้ตามเงื่อนไขก็จะสามารถเข้าไปแข่งขันในรายการ TI ได้อีกด้วย

ก่อนจะมีระบบ DPC เข้ามา ทาง Valve ใช้วิธีการเชิญทีมเข้าแข่งขัน TI โดยตรง แล้วก็เกิดข้อกังขากันว่าเหตุใดบางทีมถึงไม่ได้รับเชิญ ทำให้ในปี 2017 มีการใช้ระบบ DPC อย่างเป็นทางการ โดยจัดลำดับทีมด้วยผลคะแนน ซึ่งรูปแบบการแข่งขันก็มีการเปลี่ยนไปในแต่ละปี จนกระทั่งในปี 2021 ได้มีการแบ่งการแข่งขันในระดับภูมิภาคทั้ง 6 ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, จีน, ยุโรปตะวันตก, ยุโรปตะวันออก, อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ โดยจัดการแข่งขันในลีกระดับภูมิภาคทั้งปี

สำหรับการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 Division แต่ละ Division จะมีทีมที่เข้าร่วมทั้งหมด 8 ทีม ใช้ระบบเลื่อนชั้นและตกชั้น และรายการระดับ Major

หลังจากเริ่มแข่งขันไปแล้ว 6 สัปดาห์ 2 ทีมที่อยู่ท้ายตาราง Division 1 จะถูกปรับให้ตกชั้นไปเล่นใน Division 2 ขณะเดียวกันก็จะมี 2 ทีมที่มาจากหัวตาราง Division 2 เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นด้วยเช่นกัน

ประวัติ Dota2

หลังจากจบการแข่งขันในรอบ Division ตัวแทนของแต่ละภูมิภาคจะได้เข้ามาร่วมแข่งในรายการ Major ที่มีทั้งคะแนนและเงินรางวัลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ที่ผ่านมาในซีซั่น 2021-2022 TI ได้เชิญ 12 ทีมแรกที่ทำคะแนนได้สูงสุดเข้าร่วมแข่งขัน The International และเปิดโอกาสให้ทีมที่เหลือแข่งขัน last-chance qualifiers เพื่อเป็น 1 ใน 6 ทีมที่ได้โควตาเข้าไปเล่นด้วย โดยจะเอาเฉพาะแชมป์ของภูมิภาคเท่านั้น

และในปี 2023 มีความพิเศษยิ่งกว่าคือจะมีการแข่งขันรอบ Wildcard ที่ให้ทีมอันดับ 2 และ 3 จากรอบคัดเลือกแต่ละภูมิภาคมาแข่งขันเพื่อหา 2 ทีมสุดท้ายไปเข้าร่วม ทำให้ปีนี้มีทีมแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม จากเดิมมีแค่ 18 ทีมเท่านั้น


อ้างอิง

Similar Posts